รู้ไหม วิตามินเค ก็ช่วยให้ผิวสวยได้เหมือนกันนะ

ชื่อวิตามินที่ฟังแล้วอาจจะคุ้นหูน้อยกว่าตัวอื่น ๆ อยู่สักหน่อยอย่าง “วิตามินเค” ซึ่งเป็นวิตามินที่มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในเรื่องการแข็งตัวของเลือด และพบได้ในผักใบเขียวต่าง ๆ รวมทั้งนม เนย น้ำมันมะกอก แต่บทบาทของวิตามินเค ที่มีต่อร่างกายยังไม่ได้สำคัญแค่กับเรื่องเลือดเท่านั้นนะคะ มันยังเป็นอีกหนึ่งวิตามินสำคัญที่ส่งผลต่อเรื่องผิวพรรณของเราด้วย แต่จะทางไหนบ้างนั้นมาดูกันเลยจ้า

 1. ลดความหมองคล้ำใต้ดวงตา 

ใครที่แม้จะไม่ได้นอนดึก ไม่ได้เป็นภูมิแพ้ แต่ใต้ดวงตาก็ยังคล้ำเป็นแพนด้า นั่นอาจเป็นเพราะว่าคุณมีระบบการหมุนเวียนเลือดในบริเวณนั้นที่ไม่สู้ดีนัก ลองทาอายครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินเคเป็นประจำ จะสามารถช่วยลดความหมองคล้ำใต้ดวงตาจากสาเหตุนี้ได้ค่ะ

 2. ปกป้องให้ผิวไม่เสียความยืดหยุ่นไป

รอยย่นที่ร่องแก้มและผิวที่เริ่มขาดความกระชับ เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวเริ่มจะสูญเสียความยืดหยุ่นไปเสียแล้ว เพราะโปรตีนแมทริกซ์ที่ทำหน้าที่รักษาความยืดหยุ่นของผิวเริ่มสูญเสียไป แต่วิตามินเค จะสามารถชะลอกระบวนการนี้ไว้ ยืดเวลาผิวสวยกระชับให้นานออกไปอีกได้

 3. ขจัดปัญหารอยแผลและจุดตำหนิบนผิวได้ 

ด้วยคุณสมบัติของวิตามินเค สามารถช่วยให้รอยฟกช้ำ รอยแผลเล็ก ๆ รอยแตกลายของผิว รอยแผลไหม้ รวมไปถึงเส้นเลือดขอด ให้จางลงไปได้ด้วย

 4. แก้ปัญหาเลือดจับเป็นลิ่ม 

ยามที่เป็นแผลฟกช้ำ เส้นเลือดฝอยอาจเกิดการฉีกขาด และไหลไปคั่งเป็นจ้ำอยู่ใต้ผิวหนังจนมองเห็นเป็นจุดที่ฟ้าอมม่วงไปจนถึงดำ ลักษณะดังกล่าวสามารถค่อย ๆ หายไปเองได้ แต่ค่อนข้างต้องใช้เวลานาน แต่หากคุณทาครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินเค ลงไปเป็นประจำ จะช่วยให้เลือดที่คั่งอยู่ข้างในสลายตัว และรอยจ้ำเข้ม ๆ บนผิวก็จะหายไปได้ไวขึ้น

 5. ยาจำเป็นสำหรับก่อนและหลังศัลยกรรม 

ศัลยแพทย์แนะนำเป็นอย่างมากให้ผู้ป่วยรับประทานวิตามินเคก่อนการศัลยกรรม และทาผิวบริเวณที่จะทำการผ่าตัดด้วยครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินเคเพื่อเป็นการเตรียมร่างกาย ผิว และระบบเลือดให้พร้อมต่อการผ่าตัด และแม้จะเสร็จสิ้นกระบวนการผ่าตัดแล้ว แพทย์ก็ยังแนะนำให้ผู้ป่วยรัปประทานวิตามินเคต่อไป เพื่อช่วยให้แผลสมานง่ายรักษาตัวได้เร็วขึน

เห็นประโยชน์ของวิตามินเคที่มีต่อผิวพรรณกันแล้วหรือยังล่ะคะ ทั้งช่วยลดความหมองคล้ำใต้ตา ลดปัญหาผิวเป็นจุดจ้ำมีตำหนิเพราะการไหลเวียนเลือดไม่ดี แถมยังช่วยรักษาความยืดหยุ่นของผิวไว้อีกต่างหาก ทราบอย่างนี้แล้วก็ต้องใส่ใจรับประทานอาหารที่มีวิตามิน K กันด้วยนะจ๊ะ

ที่มา : http://women.kapook.com/view68074.html

เลือกสีผมยังไงให้เหมาะกับตัวเอง

350_3

 

การทำสีผมเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการเปลี่ยนแปลงสไตล์ของคุณ และยังทำให้ผมของคุณดูสุขภาพดีและเงางามขึ้นด้วย แต่ถ้าทำสีผมไม่ดี มันก็อาจเป็นหายนะครั้งใหญ่ก็ได้ ดังนั้น มาทำความรู้จักกับการทำสีผมให้ดีก่อนจะตัดสินใจทำ

 ทำสีแบบไหนดี

 ไฮโลท์ เป็นการทำให้ผมบางส่วนมีสีอ่อนลง ทำให้เส้นผมดูมีมิติมากขึ้น สามารถเลือกได้ทั้งสีที่ดูเป็นธรรมชาติ สีทอง หรือสีสด ๆ

 โลว์ไลท์ เป็นการทำสีเส้นผมบางส่วนให้มีสีเข้มกว่าสีผมหลักของคุณ ทำให้สีผมดูมีมิติมากขึ้น เหมาะแก่การใช้เพื่อเพิ่มแท็กซ์เจอร์ให้แก่ผม หรืออาจใช้ร่วมกับการทำไฮไลท์เพื่อให้ได้สีผมที่ดูกลมกลืนมากขึ้น

 เคลือบสีผม เป็นการเติมความเงางาม ทำให้ผมดูมีสุขภาพดีขึ้นโดยไม่เปลี่ยนแปลงสีผม

วิธีเลือกสีผม

 เลือกสีผมยังไงให้เหมาะ

 1. เลือกสีผมที่อยู่ในโทนเดียวกับสีผมตามธรรมชาติของคุณ ผมของคุณจะดูดีกว่า ถ้าเปลี่ยนสีผมให้อ่อนลงเพียง 3-4 เฉด สีผมที่ห่างไกลจากสีผมเดิมของคุณมากเกินไปจะดูแปลกประหลาด

2. เลือกสีผมให้เข้ากับสีผิว ถ้าอยากเลือกสีที่ต่างไปจากสีผมเดิม ก็ลองเลือกตามสีผิวดังนี้

 ผิวสองสี สามารถเข้าได้กับแทบทุกสี ไม่ว่าจะเป็นสีเข้มหรืออ่อน อย่างสีดำน้ำเงิน น้ำตาลแดงม่วง น้ำตาลทอง หรือน้ำตาลอ่อน เป็นต้น

 ผิวคล้ำ ควรเลือกสีโทนร้อนที่อ่อนกว่าผิวหน้าเล็กน้อยเพื่อทำให้ใบหน้าดูสว่าง และนวลเนียน อย่างเช่น สีน้ำตาลแดงจัด น้ำตาลแดงอ่อน น้ำตาลแดงปานกลาง น้ำตาลเข้ม น้ำตาลทองเข้ม และมะฮอกกานี

 ผิวขาวจัดหรือขาวเหลือง ควรเลือกสีน้ำตาลที่มีประกายแดง เช่น น้ำตาลแดงเข้ม น้ำตาลแดงจัด หรือน้ำตาลม่วงเข้ม เนื่องจากจะช่วยทำให้ผิวหน้าเป็นสีชมพูขึ้น

 ผิวขาวอมชมพู ไม่ควรเลือกสีเข้ม ๆ แต่ควรเลือกสีน้ำตาลโทนร้อนอย่างสีน้ำตาลแดงจัด หรือสีมะฮอกกานี น้ำตาลปานกลาง จะทำให้ดูไม่ซีดเขียวจนเกินไป

วิธีเลือกสีผม

 ดูแลสีผมให้สวยนาน

 เล็มผมเป็นประจำ มันจะกำจัดเส้นผมที่เสียหายหรือซีดจาง ทำให้ผมดูมีสุขภาพดี และสีผมดูเด่นขึ้น

 การดูแลประจำวัน เลือกแชมพูและคอนดิชันเนอร์ที่ออกแบบมาสำหรับผมทำสี และพยายามสระผมแค่ 3 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อไม่ให้สีผมซีดจางเร็ว และอย่าสระผมหลังจากทำสีอย่างน้อย 24 ชั่วโมง หรือถ้าทำได้ ควรรออย่างน้อย 48 ชั่วโมง แต่ถ้าคุณใช้ผลิตภัณฑ์แต่งทรงผมเป็นประจำหรือว่ายน้ำเป็นประจำ ควรใช้แชมพูแบบ Clarify สัปดาห์ละครั้ง และหลังสระผม ล้างเส้นผมด้วย น้ำหนึ่งแก้วผสมน้ำส้มสายชูหนึ่งช้อนโต๊ะ น้ำส้มสายชูจะช่วยปิดเกล็ดผมและรักษาสีผม

 บำรุงเส้นผม อย่างการใช้มาส์กสัปดาห์ละครั้ง หรือทำฮอตออยล์เดือนละครั้ง จะทำให้เส้นผมมีความชุ่มชื้น และช่วยไม่ให้สีผมซีดจางเร็ว แสงแดดและความร้อนจากอุปกรณ์แต่งทรง ก็ทำให้สีผมซีดจางเร็ว จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากแสงแดด และใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องความร้อนก่อนจัดแต่งทรงเสมอ

ที่มา : http://women.kapook.com/view69906.html

ดื่มซะให้สวย กับ 5 เครื่องดื่มเพื่อผิวสวยใส สุขภาพดี

น้ำ เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกายและเราจำเป็นต้องดื่มน้ำทุก ๆ วัน น้ำที่ดีสำหรับสุขภาพร่างกายและผิวพรรณเรามากที่สุดก็คือน้ำเปล่า แต่รู้ไหมเอ่ยว่ายังมีเครื่องดื่มอื่นที่ไม่ใช่น้ำเปล่า แต่ก็ช่วยให้ผิวสวยใสสุขภาพดีได้เหมือนกันนะคะ ถ้าอยากรู้ว่าต้องดื่มอะไรดริ๊งค์ยังไงให้ผิวสวย ตามมาดูทางนี้เลยจ้า

1. ชาเขียว 

ถ้าต้องการได้ประโยชน์จากชาเขียวแบบเต็ม ๆ ต้องดื่มตอนมันร้อน ๆ เพราะสารแอนตี้ออกซิแดนท์จากใบชาจะขับออกมาได้ดีที่สุดในน้ำอุณหภูมิสูง และปริมาณที่แนะนำคือ 2-6 ถ้วยต่อวันค่ะ ซึ่งสารแอนตี้ออกซิแดนท์นี่เองที่ป้องกันการอักเสบของผิว ป้องกันการก่อตัวของมะเร็ง รวมทั้งมะเร็งเม็ดสีที่เกิดจากการปะทะแสงแดดจัดจ้าด้วย

2. น้ำนมข้าวโอ๊ต

ใครที่ชอบดื่มนมลองเปลี่ยนจากน้ำนมวัวมาเป็นน้ำนมข้าวโอ๊ตดูสิคะ คุณจะได้รับประโยชน์แบบเต็ม ๆ จากวิตามินอี และโฟลิกแอซิด ซึ่งจำเป็นมากสำหรับการเกิดใหม่ของผิวเลยล่ะ

3. ชาเนทเทิล

ชาเนทเทิล (Nettle tea) มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์อยู่สูง เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะที่สุดหากว่าคุณกำลังเผชิญปัญหาผิวเริ่มจะนำหน้าไปก่อนอายุ เพราะสารแอนตี้ออกซิแดนท์จะช่วยต่อต้านพิษและสารอนุมูลอิสระต่าง ๆ ไม่ให้มาทำร้ายผิวได้ ทำให้ผิวยังดูอ่อนเยาว์อยู่ได้นานนั่นเอง

4. น้ำผักและผลไม้คั้นสด

ผักและผลไม้มีประโยชน์กับผิวอยู่แล้วแน่ ๆ โดยไม่ต้องสงสัย และเมื่อกลายร่างเป็นน้ำผักและผลไม้คั้นสด ๆ คุณค่าของมันก็ไม่ได้ลดลงไปมากนัก โดยเฉพาะในเรื่องของวิตามินซี ในแง่ที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและสว่างสดใสขึ้น หากยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นดื่มน้ำอะไรดี แนะนำให้ลองน้ำแตงกวาดูดีไหมคะ เพราะอุดมไปด้วยโพแทสเซียม แมกนีเซียม และซิลิกา ที่สำคัญแตงกวายังมีน้ำมากถึง 90% จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีสุด ๆ หรือจะลองเป็นน้ำมะเขือเทศที่มีวิตามินซีสูง แถมยังมีไลโคปีนที่ช่วยในเรื่องการไหลเวียนโลหิตด้วย

5. ชาเปบเปอร์มิ้นต์ 

ความเครียดคือศัตรูตัวฉกาจของผิวพรรณ และคู่ต่อสู้ที่จะมาต่อกรกับมันได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ก็คือชาเปบเปอร์มิ้นต์กลิ่นหอมสดชื่น ดื่มแล้วผ่อนคลายช่วยสลายความเครียดได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยให้โล่งจมูก บรรเทาอาการปวดจมูกจากโรคไซนัส บรรเทาอาการปวดศีรษะ และช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารด้วยนะคะ

 ใครอยากมีผิวที่แข็งแรงแถมสวยสุขภาพดีลองเพิ่มเครื่องดื่มเหล่านี้ลงในชีวิตประจำวันดูสิคะ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็อย่าลืมดื่มน้ำเปล่าให้มากพอกับความต้องการของร่างกายเสมอด้วยนะจ๊ะ ถ้าดื่มทั้งสองแบบควบคู่กันไปในปริมาณที่พอดี รับรองคราวนี้ผิวสวยผิวใสก็จะอยู่ไม่ไกลกเดเอื้อมเลยจ้า

ที่มา : http://women.kapook.com/view68658.html

ขมิ้นขัดผิว ทางเลือกสู่ผิวสวยใสจากธรรมชาติ

 ขมิ้น สุดยอดสมุนไพรที่ช่วยบำรุงร่างกายได้ตั้งแต่ภายในจนถึงภายนอก โดยเฉพาะการใช้บำรุงผิวพรรณที่คนโบร่ำโบราณส่วนใหญ่ต่างก็นิยมนำขมิ้นสีเหลืองสดมาทา ขัด และพอกผิวกันเป็นประจำ เนื่องจากขมิ้นมีคุณประโยชน์และวิตามินนานาชนิดที่ช่วยบำรุงผิวให้ขาวเปล่งปลั่งเนียนใสได้เยี่ยมยอด สำหรับใครที่อยากมีผิวสวยเริ่ดแบบปลอดภัยไร้สารเคมี  รีบมาดูสูตรผิวสวยจากขมิ้นกันเลยดีกว่า…

สูตรผิวสวยด้วยขมิ้นขัดตัว : สาว ๆ ควรเลือกใช้เป็นขมิ้นบดเป็นผงที่ใหม่และสะอาด เพื่อป้องกันเชื้อรา เศษผง ฝุ่นละอองอื่น ๆ ที่อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้

 ผงขมิ้น 1 ถ้วย + นมสด 3/4 ถ้วย

ผสมขมิ้นกับนมสดให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกลงบนผิวขณะอาบน้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที สูตรนี้สาว ๆ สามารถทำได้ทุกวัน แถมยังพอกได้ทั่วตัวเลยล่ะ ใครอยากมีผิวขาวนุ่ม ชุ่มชื่น ต้องลองสูตรนี้แล้วจะรักหมดใจ  

 ผงขมิ้น 1 ถ้วย + น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ + มะขามเปียก ½ ถ้วย

เตรียมส่วนผสมทั้งหมดแล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นจึงนำมานวดเบา ๆ บนผิวเปียกน้ำให้ทั่ว ทิ้งไว้ 10-15 นาที ทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จะช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้ขาวกระจ่างใส ทั้งยังช่วยลดจุดด่างดำให้จางลงอีกด้วย

นับเป็นหนึ่งในทางเลือกของการมีผิวสวยที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวนะคะ เอาเป็นว่าใครอยากมีผิวขาวผ่องใสแบบประหยัดงบ แถมไม่ต้องมานั่งกังวลกับผลข้างเคียงจากสารเคมี สงสัยต้องรีบไปหาซื้อขมิ้นมาลองขัดตัวดูบ้างแล้วล่ะ

ที่มา : http://women.kapook.com/view68970.html

สวยแบบสาวเกาหลี มีเคล็ดลับอย่างไรนะ

01_242

เดี๋ยวนี้ไม่ว่าอะไรก็กลายเป็นเทรนด์เกาหลีไปเสียหมด โดยเฉพาะสวยแบบสาวเกาหลี ที่สาวไทยเองก็อยากจะสวยเหมือนเธอ หากไม่นับเรื่องสวยด้วยมีดหมอ(ซึ่งเป็นที่นิยมกันมาก) ก็ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าสาวเกาหลีนั้นผิวพรรณเขาดีจริง ๆ ผิวดีหน้าใสแบบนี้ก็เท่ากับมีชัยไปกว่าครึ่ง สาวเกาหลีเขาจะมีเคล็ดลับในการดูแลผิวหน้าอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

ไม่ล้างหน้าแบบถูขึ้น-ลง

การล้างหน้าที่เราทำกันจนคุ้นเคย คือการใช้มือถูใบหน้าในแนวขึ้น-ลง ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้กล้ามเนื้อผิวหน้าเสียความกระชับ ทำให้ให้ผิวเหี่ยว และดูคล้อยได้ง่าย ลองเปลี่ยนมาถูหน้าเบา ๆ ในทิศทางจากคางขึ้นไปหาหน้าผาก และในทิศปัดออกจากใบหน้าแทนการถูกขึ้นลง จะช่วยชะลอการหย่อนคล้อยของผิวได้แน่นอนค่ะ

ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวขาวใส

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวขาวใสหรือครีมบำรุงผิวตระกูลไวท์เทนนิ่งทั้งหลาย เป็นเครื่องประทินผิวที่ขาดไม่ได้สำหรับสาวเกาหลี เพื่อบำรุงผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดให้กลับมาสดใสเช่นเดิม แถมยังมีผลิตภัณฑ์ในไลน์บำรุงผิวขาวให้เลือกใช้อีกหลายประเภทด้วย

ทาครีมกันแดดเป็นประจำ

สาวเกาหลีไม่เคยละเลยกฏเหล็กแห่งการถนอมผิวข้อนี้  ครีมกันแดดเป็นครีมตัวแรกที่เธอจะต้องใช้ก่อนการแต่งหน้าทุกครั้ง นอกจากนี้สาว ๆ เกาหลียังใช้ครีมกันแดดกันตั้งแต่เพิ่งจะเป็นเด็กสาวเลยด้วยซ้ำ เรื่องการป้องกันผิวนี้ยิ่งทำเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งรักษาสภาพผิวให้สวยใสได้มากเท่านั้น

ใส่ใจการบำรุงผิว แม้มีขั้นตอนยิบย่อยมากมาย

หากจะนับกันจริง ๆ ในทุก ๆ วัน สาวเกาหลีใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลผิวไม่ต่ำกว่า 10 ตัว อย่างในตอนเช้านี่ก็มีผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหน้า ตามมาด้วยโทนเนอร์ อีมัลชั่น เอสเซ้นส์ ครีมบำรุงผิว ยังไม่นับที่บำรุงผิวเฉพาะจุด อย่างอายครีม หรือสำหรับลบเลือนริ้วรอย และจุดด่างดำ ฯลฯ แม้จะเป็นขั้นตอนที่ดูยุ่งยาก และต้องใช้เวลา แต่ผลลัพท์ที่ได้มากับผิวสวย ๆ ของพวกเธอ ก็นับว่าคุ้มค่าสมกับความเอาใจใส่ในขั้นตอนยิบย่อยเหล่านั้นของพวกเธอจริง ๆ

นอกจากจะมีขั้นตอนการบำรุงผิวที่มากมายแล้ว ขั้นตอนการแต่งหน้าของเธอ สาวเกาหลีก็เอาใจใส่ในรายละเอียดมากมายไม่แตกต่างกัน ตั้งแต่ลงไพรม์เมอร์ และเมคอัพเบส ตามด้วยครีมรองพื้นห รือบีบีครีมอันเลื่องชื่อของเกาหลี จากนั้นก็พรางจุดบกพร่องที่ต้องการปกปิดด้วยคอนซีลเลอร์ หลังจากเตรียมผิวในขั้นตอนนี้เสร็จเรียบร้อย ก็ต่อด้วยการลงไฮไลท์เตอร์ เพื่อเน้นส่วนใบหน้าที่ต้องการเพิ่มความโดดเด่น แต่งคิ้วให้ได้ทรงสวยด้วยดินสอเขียนคิ้ว หรือเจล จากนั้นก็เป็นขั้นตอนของการใช้อายแชโดว์ อายไลน์เนอร์ มาสคาร่า ลิปสติก ลิปกลอส และบลัชออน เป็นอันเสร็จสิ้นการแต่งหน้าในหนึ่งวัน ถึงขั้นตอนจะดูเยอะแยะมากมาย แต่การเอาใจใส่แต่ละขั้นตอนอย่างพิถีพิถันนี่เองค่ะ ที่ทำให้สาวเกาหลีสวยเป๊ะจนราอิจฉานั่นเอง

สำหรับสาวไทยอย่างเราก็ลองนำวิธีดูแลผิวหน้าเหล่านี้ของสาวเกาหลีไปใช้ดูบ้าง รับรองว่าสาวไทยก็สวยไม่แพ้สาวเกาหลีแน่นอนเลยจ้า 😉

ที่มา : http://women.kapook.com/view36491.html

ท้องผูก อาการยอดฮิต ต้องพิชิตด้วยการเปลี่ยนนิสัย

images (1)woman in toilet

 

ท้องผูกทําไงดี อาหารแก้ท้องผูก มีอะไรบ้าง ใครกำลังทุกข์ทรมานกับโรคฮิตที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันแบบนี้ มาดูวิธีแก้ท้องผูกกันเลย 

เมื่อนาฬิกาปลุกดังขึ้นมาในตอนเช้า หนุ่มสาวออฟฟิศก็ต้องรีบลุกขึ้นมาจากที่นอน อาบน้ำ แปรงฟัน แต่งตัว แล้วก็รีบบึ่งออกจากบ้าน กว่าจะฝ่าดงรถติด กว่าจะได้ทานอะไรรองท้องในตอนเช้า ก็ถึงเวลาเข้างานพอดี เป็นอย่างนี้ตลอด 5 วันทำงาน อ้าว ! แล้วเอาเวลาไหนไปเข้าห้องน้ำขับถ่ายอุจจาระล่ะเนี่ย ถึงว่าล่ะคนสมัยนี้ถึงท้องผูกกันบ่อยจัง อ่านเพิ่มเติม

ก่อนถึงวันสำคัญ เตรียมตัวยังไงให้เป๊ะเว่อร์

ก่อนจะออกจากบ้านแต่ละทีก็เชื่อว่าสาว ๆ คงต้องเตรียมแต่งตัวให้เริ่ดที่สุดอยู่แล้ว โดยเฉพาะในโอกาสพิเศษอย่างนัดเจอเพื่อนเก่า หรือไปเดทกับแฟน แต่แหม ถ้าต้องออกงานที่ยิ่งใหญ่อลังการกว่านั้นล่ะ จะต้องเตรียมตัวยังไงกันบ้าง นอกจากต้องเตรียมเสื้อผ้าหน้าผมให้พร้อมที่สุดแล้ว ก็ยังมีอีก 7 สิ่งควรทำเพื่อให้การปรากฏตัวในวันสำคัญของคุณเป๊ะเว่อร์ตามนี้กันเลยค่ะ

 1. ยิ้มสวยอวดฟันขาว

ไปงานสำคัญแบบนี้คงหนีไม่พ้นต้องเจอผู้คนมากหน้าหลายตา ซึ่งก็ต้องแจกยิ้มสวยอวดฟันด้วยแน่ ๆ ถ้าอย่างนั้นก่อนอื่นเรามาดูแลสุขภาพช่องปากกันดีกว่า จะได้ยิ้มอย่างมั่นใจกันมากขึ้น สำรวจฟันตัวเองด้วยการฉีกยิ้มหน้ากระจกดูสักหน่อย ถ้าสังเกตเห็นว่าฟันดูเหลือง ๆ ไม่ขาวกระจ่างก็ควรต้องจัดการฟื้นฟูกันด่วน ๆ เริ่มแรกควรงดชา กาแฟ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด โดยเฉพาะไวน์ ก่อนจะออกงานสัก 2-3 วัน หรือถ้าให้ดีก็งดดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้ก่อน 1 สัปดาห์ไปเลย และอย่าลืมหาวิธีขัดฟันให้ขาววิ๊งด้วย ถ้างบประมาณเพียงพอ จะไปให้ทันตแพทย์ฟอกฟันขาวสักนิดก็ดีจ้า

 2. กินดีอยู่ดี

กินดีอยู่ดีในที่นี้หมายถึงให้เลือกกินอาหารสุขภาพ เพื่อให้ร่างกายเปล่งประกายความอุดมสมบูรณ์ ดูสุขภาพดีจากภายใน โดยในระยะก่อนออกงาน ควรลดอาหารรสเค็มหรืออาหารที่มีโซเดียมสูง เพื่อป้องกันอาการบวมน้ำ อีกทั้งบรรดาแป้งต่าง ๆ อย่างข้าวขาว และแป้งขัดสีทุกชนิด (ขนมปังขาว) ก็ควรลดปริมาณด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ก็ต้องดื่มน้ำสะอาดเยอะ ๆ เพื่อให้ร่างกายขับสารพิษได้สะดวกยิ่งขึ้น ผิวจะได้ดูชุ่มชื้นอิ่มน้ำ เปล่งประกายสวยใสแบบจัดเต็มกันไปเลย

เสื้อผ้าแฟชั่น

 3. นอนให้เต็มอิ่ม

การนอนหลับเป็นการพักผ่อนร่างกายที่ดีที่สุดอย่างไม่มีอะไรเทียบได้ เพราะถ้าหากร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เช้าวันรุ่งขึ้นก็จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่นแจ่มใส แต่ถ้าวันไหนนอนไม่พอ ตื่นมาก็จะดูเพลีย ๆ แถมขอบตาก็จะดำเป็นหมีแพนด้า เดือดร้อนต้องใช้เทคนิคแต่งหน้าอำพรางให้ความดำคล้ำใต้ตาหายไปอีก ฉะนั้นเพื่อความสดใสในวันสำคัญ ก็ควรพยายามนอนหลับให้เต็มอิ่ม อย่างน้อย 8 ชั่วโมงเต็ม และถ้านอนเต็มอิ่มหลาย ๆ คืนติดกันได้ก็จะดีที่สุด แต่ถ้าคุณตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ และต้องเผชิญกับขอบตาดำคล้ำและหน้าเพลีย ๆ ก็ต้องใช้เทคนิคจัดการกันสักหน่อย ด้วยการประคบขอบตาด้วยถุงชานาน 10 นาที และอาศัยเทคนิคแต่งหน้าขั้นเทพมาช่วย

 4. ทรีทเม้นท์ผมสวย

เสน่ห์น่าดึงดูดของผู้หญิงบางทีก็อยู่ที่เส้นผม โดยเฉพาะสาวผมยาวที่ต้องดูแลกันเป็นพิเศษ เพื่อเสริมความมั่นใจในวันสำคัญ โดยก่อนจะถึงวันงาน สาว ๆ ควรบำรุงผมอย่างล้ำลึกด้วยการทำทรีทเม้นท์ จะเข้าร้านเสริมสวยหรือจะบำรุงเองที่บ้านก็ได้ เพราะแค่เพียงหมักผมหลังสระทุกครั้งด้วยครีมนวดธรรมดา และเพิ่มการบำรุงให้ล้ำลึกอีกนิดด้วยการหมักทรีทเม้นท์ประมาณ 10-15 นาที หรือเท่าที่คำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์บอก ก่อนจะออกงาน 2-3 ครั้ง เท่านี้ก็จะมีผมที่นุ่มสลวยน่าสัมผัสแล้วล่ะ

ผมสวย

 5. ลดบวมเพื่อความเป๊ะ

นอกจากอาหารรสเค็มจัดที่เป็นสาเหตุของอาการบวมน้ำแล้ว บรรดาเครื่องดื่มประเภทโซดา แอลกอฮอล์ และหมากฝรั่งปราศจากน้ำตาล รวมทั้งผักบางชนิดก็มีส่วนทำให้ร่างกายเกิดแก๊สและอาการบวมได้เช่นกัน ดังนั้นก็ควรหลีกให้ไกล แล้วหันมารับประทานอาหารประเภทปลา ไก่ ผักสด และสลัดแทน เพื่อให้ร่างกายกระชับเป๊ะให้ได้มากที่สุดนะจ๊ะ

 6. ขัดสีฉวีวรรณ

จะออกงานใหญ่ทั้งทีก็ควรต้องสวยตั้งแต่หัวจรดเท้าจริงไหมคะ ไม่อย่างนั้นจะเรียกว่าสวยเป๊ะได้ยังไง ถ้าอย่างนั้นเมื่อดูแลร่างกายจากภายในกันแล้ว ก็ควรต้องมาใส่ใจร่างกายภายนอกกันบ้าง ด้วยการขัดสีฉวีวรรณทั้งผิวหน้าและผิวกายทั้งตัว เพื่อให้เซลล์เก่า ๆ ที่ตายแล้วหลุดลอกออกไป เผยความกระจ่างใส และผิวนุ่ม ๆ เนียน ๆ ขึ้นมาแทน ซึ่งถ้าจะให้ดีควรขัดหน้าขัดตัวก่อนออกงานอย่างน้อย 2-3 วันนะ

ผิวสวย

 7. ใส่ใจรายละเอียด

ดูแลร่างกายให้สวยเปล่งประกายกันแล้ว ก็อย่าลืมเก็บรายละเอียดปลีกย่อย เช่น ความสะอาดของเล็บ เสื้อผ้าที่จะใส่ รองเท้ากระเป๋ามีพร้อมหรือยัง หน้าผมจะแต่งแบบไหน รวมถึงรายละเอียดที่จำเป็นต่าง ๆ ด้วย ควรเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด แล้ววันงานคุณก็จะเป็นอีกคนที่ดูดีสะดุดตาได้ไม่ยากจ้า

ทุกคนก็คงต้องมีวันสำคัญอย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิต และเมื่อเป็นวันสำคัญ ไม่ว่าใครก็อยากดูดีที่สุดอย่างแน่นอน ดังนั้นก่อนจะถึงวันนั้นของคุณ ก็ลองเตรียมตัวตาม 7 ข้อนี้กันดูนะคะ จะได้ปรากฏกายอย่างมั่นใจกันมากขึ้น เดินไปทางไหนก็เด่นสะดุดทุกสายตาให้เหลียวมอง

ที่มา : http://women.kapook.com/view69848.html

4 ทิปส์ออกกำลัง ให้น้ำหนักลดเร็วกว่าเดิม

ถ้าน้ำหนักไม่ขึ้น เชื่อว่าสาว ๆ ก็คงไม่คิดจะลุกขึ้นมาออกกำลังกายหรอกใช่ไหมคะ เอาล่ะ…ไหน ๆ ก็ตัดสินใจจะปฏิวัติตัวเองด้วยการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักแล้ว ลองมาดูทิปส์ดี ๆ ที่เว็บไซต์ ourvanity.com เขาแนะนำว่าจะช่วยให้คุณสามารถลดน้ำหนักได้เร็วขึ้นจากการออกกำลังกายที่คุณเลือกกันดีกว่า แล้วถ้าลดน้ำหนักได้สำเร็จสมดังใจแล้ว ก็อย่าล้มเลิกกลางคันเชียวนะ ออกกำลังกายต่อไปเพื่อสุขภาพของตัวเองด้วยนะ

อย่าออกกำลังกายตอนท้องว่าง

เคยคิดใช่ไหมล่ะ ว่าถ้าเราออกไปวิ่ง หรือออกกำลังกายตอนท้องว่าง ๆ หิว ๆ แล้ว ร่างกายจะไปดึงไขมันมาใช้มากขึ้น เพื่อให้มีพลังงานพอ แต่ความจริงแล้ว นั่นจะยิ่งทำให้คุณเหนื่อยขึ้นต่างหาก แถมยังไม่มีพลังพอที่จะออกกำลังกายได้อย่างสมบูรณ์ด้วย เพราะฉะนั้น ก่อนจะออกกำลังกาย หาของว่างอร่อย ๆ ที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผลไม้ กินรองท้องสักหน่อยเนอะ

เต้นก็ช่วยได้

การเต้นเป็นทางเลือกที่เวิร์กสุด ๆ สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ลองจัดสรรเวลามาลุกขึ้นเต้นสักวันละ 20 นาทีดู การได้ยักย้ายส่ายเอว ส่ายสะโพก หรือกระโดดโลดเต้นจะช่วยให้รูปร่างของคุณดูเพอร์เฟคท์มากขึ้น แถมยังเป็นยาอายุวัฒนะให้คุณดูสดใสขึ้นด้วย เอ…แล้ววันนี้จะเต้นเพลงอะไรดีนะ

ออกกำลังกาย

วิ่งถอยหลังก็ไม่เลว

ถ้าเคยวิ่งไปข้างหน้าเป็นประจำจนเบื่อแล้ว ลองเปลี่ยนมาวิ่งถอยหลังดูบ้างไหมจ๊ะ เพราะมีงานวิจัยพบว่า การวิ่งถอยหลัง นอกจากจะช่วยบำรุงหัวใจ ปอด กล้ามเนื้อ ข้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสะโพก ขา และลำตัวของคุณให้แข็งแรงขึ้นแล้ว คุณยังจะสามารถเผาผลาญไขมันและแคลอรี่ได้มากกว่าการวิ่งไปข้างหน้าด้วย แถมยังช่วยให้ประสาทการได้ยินของคุณทำงานได้ดียิ่งขึ้น แต่ข้อแนะนำก็คือ ควรเลือกสนามว่าง ๆ หรือสถานที่ที่คุ้นเคยในการวิ่งนะ เพื่อความปลอดภัย จะได้ไม่หกล้มหงายหลังจนได้รับบาดเจ็บแทน

ออกกำลังกาย

ยกเวทก่อนแล้วค่อยคาร์ดิโอ

คนรักการออกกำลังกายคงรู้ดีว่า การออกกำลังกายแบบ “คาร์ดิโอ” ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง เต้นแอโรบิก หรือไปว่ายน้ำ จะช่วยเบิร์นไขมันได้อย่างดีเยี่ยม และหลายคนเมื่อออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจนเหนื่อยแล้ว ก็มักจะกลับมานั่งยกเวทเบา ๆ ให้ร่างกายได้พักสักแป๊บ ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ

แต่สำหรับคนที่ต้องการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักแล้ว คุณต้องทำตรงข้ามกันค่ะ โดยคุณควรจะยกเวทก่อนสักพัก เพื่อเป็นการอุ่นเครื่อง จากนั้นค่อยไปออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันส่วนที่เพิ่งเล่นเวทไปให้เพิ่มมากขึ้น นั่นเพราะตอนยกเวท ร่างกายจะใช้ไกลโคเจนที่สะสมอยู่ในร่างกายไปก่อน เมื่อไปวิ่ง ร่างกายก็จะดึงไขมันส่วนที่เหลือออกมาใช้ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

ทิปส์ง่าย ๆ แบบนี้ น่าจะถูกใจคนที่คิด หรือกำลังคิดจะออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักนะจ๊ะ

ที่มา : http://health.kapook.com/view70022.html

4 สิ่งเหล่านี้…อาจไม่ดีต่อจุดซ่อนเร้นสาว ๆ

บางทีสิ่งเหล่านี้ที่เข้าใจกันว่าจะช่วยดูแลจุดบอบบางของสาว ๆ อาจจะไม่ได้ดีต่อสุขภาพของคุณผู้หญิงก็เป็นได้ โดยเฉพาะกับจุดซ่อนเร้นของสาว ๆ ที่ต้องดูแลให้ดีสุด ๆ 

bikini1

1. น้ำยาอนามัย 

สาว ๆ รักสะอาด ที่ซื้อหาน้ำยาเฉพาะจุดซ่อนเร้นมาใช้ อาจกลายเป็นการทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากน้ำยาพวกนี้ยังไม่มีการทดลองที่มากพอจะเชื่อได้ว่ามีประโยชน์จริง ทั้งยังมีการแต่งสี แต่งกลิ่น และมีค่าความเป็นกรด-ด่างที่อาจทำให้สมดุลเปลี่ยนแปลงไปได้

 คุณควร : ใช้แค่น้ำเปล่าธรรมดา หรือสบู่เด็กล้างแค่ภายนอกก็พอ อย่าล้วงเข้าไปล้างภายในเด็ดขาด

2. แผ่นอนามัย 

ชื่อฟังดูดี แต่ถ้าใส่เจ้าผ้าอนามัยขนาดมินินี้ทุกวัน เชื้อราทั้งหลายคงจะเริงร่านักเชียว เพราะแม้จะเป็นแค่แผ่นบาง ๆ แต่ระบบระบายอากาศของมันก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก น้องหนูของคุณจะอับชื้นมาก ๆ

 คุณควร : ใส่ผ้าอนามัยเท่าที่จำเป็นเท่านั้น อาจใช้แผ่นอนามัยในวันท้าย ๆ ของการมีประจำเดือนแค่ 2-3 วันก็พอแล้ว
3. ชุดชั้นในเก่ากึ้ก 

ชุดชั้นในเป็นสิ่งที่อยู่แนบกับน้องหนูของคุณทั้งวันทั้งคืน ฉะนั้น เรื่องความสะอาดจึงเป็นอะไรที่มองข้ามไปไม่ได้เด็ดขาด

 คุณควร : ซักและผึ่งแดดให้แห้งสนิท และยังควรเปลี่ยนบ่อย ๆ ด้วยเพื่อลดการเกิดเชื้อรา

4. ยาปฏิชีวนะ 

ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ คุณผู้หญิงก็ไม่ควรกินยากลุ่มนี้ เพราะฤทธิ์ยานอกจากจะปราบพวกแบคทีเรียตัวร้ายแล้ว แบคทีเรียตัวดี ๆ ที่อยู่ในช่องคลอดมันก็ไม่เว้นเหมือนกัน

 คุณควร : ปรึกษาแพทย์ก่อน และทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

9 วิธี เตรียมสวยฉบับเร่งด่วน

เทศกาลรื่นเริงเฉลิมฉลองมาถึงอีกแล้วค่ะ แต่ที่ผ่านมาสาวๆ หลายคนคงง่วนแต่กับการทำงานจนละเลยการดูแลตัวเองใช่ไหมล่ะ เอาเถอะค่ะ ถึงไม่ค่อยมีเวลา เราก็ยังสวยได้ เพราะ H&C มีคำแนะนำจาก คุณฟูก-ธำรงรักษ์ วราลักษณ์ และ คุณเป็ด-อภิชาต นรเศรษฐาภรณ์ เมคอัฟอาร์ทิสชื่อดังของเมืองไทย รวมทั้งคุณไก่-สมพร ธิรินทร์มาฝากค่ะ

1. ถ้ารูขุมขนกว้าง

การมีรูขุมขนกว้างเกิดได้หลายสาเหตุ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผิวขาดอากาศหายใจจากการทารองพื้นหนาเกินไป  คุณจึงควรใช้น้ำเย็นจากฝักบัวเพิ่มความชุ่มชื้นให้ใบหน้าบ่อยๆเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับรูขุมขน  ยิ่งถ้ามีปัญหาร่วมกับผิวมัน ยิ่งจำเป็นต้องขยันมาส์คหน้าบ่อยๆประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อดึงน้ำมันและสิ่งสกปรกในรูขุมขน กำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ลดความมันและการอักเสบ ทำให้ผิวกระชับขึ้น

 วิธีแก้ไขแบบเร่งด่วน คุณต้องเริ่มต้นจากการทำความสะอาดอย่างล้ำลึกด้วยการมาส์คหน้าเสียก่อน  อาจเลือกใช้มาส์คที่มีส่วนผสมของแป้งหรือโคลน ประเภทดีพคลีนซิ่งมาส์ค จะช่วยลดความมันส่วนเกินได้ดี  หรือจะใช้มาส์คชนิดแผ่นกระดาษก็ได้  ก่อนแต่งหน้าตามปกติ โดยอย่าลืมว่าอย่าลงรองพื้นหนาเกินไป และพกกระดาษซับมันติดตัวด้วยค่ะ อ่านเพิ่มเติม